
รายงานการวิจัยเรื่อง
การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร
นางกรกนก เพชรสงฆ์
ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร
ชื่อผู้วิจัย นางกรกนก เพชรสงฆ์
ปีที่วิจัย 2564
บทคัดย่อ
การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟ ของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัยของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร จำนวน 300 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัยของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ค่าร้อยละ 15 ของประชากร ได้จำนวน 45 คน จากนั้นสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงกับผู้ที่เข้ามารับบริการฐานการเรียนรู้ของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบ และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย . ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติค่าที
ผลการศึกษาพบว่า
1.ผู้รับบริการ มีคะแนนทดสอบหลังทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟสูงกว่าก่อนทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟ จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 86.67 มากกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ ผู้รับบริการ ร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจใน เรื่องของ กาแฟ และยังพบอีกว่า ผู้รับบริการมีคะแนนหลังทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟสูงกว่าคะแนนก่อนทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้ กาแฟ ของผู้รับบริการโดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดย ด้านความรู้ที่ได้รับ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านสื่อการเรียนรู้ด้านวิทยากร และด้านบรรยากาศการเรียนรู้ ตามลำดับ และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่า
2.1 ด้านสื่อการเรียนรู้ ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของผู้รับบริการ โดยภาพรวมมี ความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า สื่อ อุปกรณ์ มีความทันสมัย เหมาะสมเพียงพอ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ เนื้อหาของสื่อสอดคล้องกับฐานการเรียนรู้ ตามลำดับ
2.2 ด้านวิทยากร ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของผู้รับบริการ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ความเหมาะสมของเนื้อหาที่ใช้ การใช้เวลาในการอธิบายและการเปลี่ยนฐานเหมาะสม ส่วนความน่าสนใจของการนำเสนอเนื้อหา มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ตามลำดับ
2.3 ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของผู้รับบริการโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนหรือซักถามมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ การมีส่วนร่วมของผู้เรียน
2.4 ด้านความรู้ที่ได้รับ ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของผู้รับบริการ โดยภาพรวมมี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าความเข้าใจเนื้อหาที่วิทยากรอธิบาย มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ มีความรู้เพิ่มมากขึ้น นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้ ส่วนการนำไปต่อยอดความรู้และศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมได้ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ตามลำดับ
3. ผู้รับบริการมีข้อเสนอแนะว่า ควรมีสื่อที่ทันสมัย รองลงมาได้แก่ ควรมีฐานการเรียนรู้ด้านการทำอาหาร ควรมีการฝึกปฏิบัติจริง และควรเปิดบริการวันเสาร์-อาทิตย์สำหรับกลุ่มเล็กๆ ตามลำดับ
กิตติกรรมประกาศ
งานวิจัยฉบับนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความกรุณาอย่างสูงจาก คุณสุพรรณ
ฐินะกุล ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร ที่ปรึกษางานวิจัย ที่กรุณาให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่อย่างดียิ่ง ผู้วิจัยตระหนักถึง ความตั้งใจจริงและความทุ่มเทของที่ปรึกษาและขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้
ขอขอบพระคุณ คุณณัฐภัสสร แดงมณี รองผู้อำนวยการ กศน.ภาคกลาง และคุณสมจิตร เต็นรัมย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้ความอนุเคราะห์ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ตลอดจนนักศึกษาที่มาศึกษาดูงานฐานการเรียนรู้การเพาะเห็ดนางฟ้า ทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม
จนทำให้งานวิจัยนี้สำเร็จลุล่วงไป ด้วยดี อนึ่ง ผู้วิจัยหวังว่า งานวิจัยฉบับนี้จะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย
จึงขอมอบส่วนดี ทั้งหมดนี้ให้แก่เหล่าคณาจารย์ที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาจนทำให้ผู้งานวิจัยเป็น ประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและขอมอบความกตัญญูกตเวทิตาคุณ แด่บิดา มารดา และผู้มี พระคุณทุกท่าน สำหรับข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ผู้วิจัยขอน้อมรับผิดเพียง ผู้เดียว และยินดีที่จะรับฟังคำแนะนำจากทุกท่านที่ได้เข้ามาศึกษา เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนางานวิจัยต่อไป
ผู้วิจัย
นางกรกนก เพชรสงฆ์
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อ………………………………………………………………………………………………………………… |
ก |
|
กิตติกรรมประกาศ…………………………………………………………………………………………………… |
ค |
|
สารบัญ………………………………………………………………………………………………………………….. |
ง |
|
สารบัญตาราง………………………………………………………………………………………………………… |
จ |
|
สารบัญภาพ…………………………………………………………………………………………………………… |
ฉ |
|
บทที่ 1 |
บทนำ……………………………………………………………………………………………… |
1 |
|
ความเป็นมาและความสำคัญปัญหา……………………………………………………. |
1 |
|
วัตถุประสงค์ของการวิจัย………………………………………………………………….. |
3 |
|
ขอบเขตการวิจัย……………………………………………………………………………… |
3 |
|
นิยามศัพท์เฉพาะ……………………………………………………………………………… |
3 |
|
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ…………………………………………………………………. |
4 |
|
กรอบแนวคิดในการวิจัย…………………………………………………………………….. |
4 |
บทที่ 2 |
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง…………………………………………………………… |
5 |
|
แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งเรียนรู้หรือฐานการเรียนรู้…………………….. |
5 |
|
แนวคิดเกี่ยวกับการทำคู่มือ………………………………………………………………… |
13 |
|
แนวคิดเกี่ยวกับฐานการเรียนรู้กาแฟ.......................................................... |
19 |
|
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง..................................................................................... |
31 |
บทที่ 3 |
วิธีการดำเนินการวิจัย………………………………………………………………………… |
33 |
|
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง………………………………………………………………… |
33 |
|
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล………………………………………………… |
33 |
|
วิธีการเก็บข้อมูล……………………………………………………………………………….. |
34 |
|
การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล………………………….. |
34 |
บทที่ 4 |
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล………………………………………………………………………. |
35 |
|
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูล…………………………………………………….. |
35 |
|
ลำดับขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล………………………………………………………… |
35 |
|
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล……………………………………………………………………….. |
35 |
บทที่ 5 |
สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ ……………………………………………………….. |
42 |
|
สรุป……………………………………………………………………………………………….. |
42 |
|
อภิปราย………………………………………………………………………………………….. |
42 |
|
ข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………………………. |
42 |
บรรณานุกรม |
46 |
|
ภาคผนวก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย |
48 49 |
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
1 |
แสดงผลการทดสอบระหว่างก่อนและหลังทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟ......... |
35 |
2 |
เปรียบเทียบคะแนนผลความรู้ ความเข้าใจก่อนและหลังทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟ........................................................................................................... |
35 |
3 |
แสดงจำนวนและค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม............................................. |
37 |
4 |
แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้ กาแฟโดยรวม........................................................ |
38 |
5 |
แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้ กาแฟ ด้านสื่อ...................................................... |
39 |
6 |
แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้ ฐานกาแฟ ด้านวิทยากร....................................... |
39 |
7 |
แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้ ฐานกาแฟ ด้านบรรยากาศการเรียนรู้................... |
40 |
8 |
แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้ ฐานกาแฟ ด้านความรู้ที่ได้รับ............................ |
40 |
9 |
แสดงจำนวนและค่าร้อยละข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถาม......................... |
41 |
สารบัญภาพ
แผ่นภาพที่ หน้า
1 |
กรอบแนวคิดในการวิจัย |
4 |
2 |
การเตรียมต้นกล้า |
22 |
3 |
การเตรียมพื้นที่ |
23 |
4 |
การขุดหลุมปลูกกาแฟ |
23 |
5 |
การผสมดิน |
24 |
6 |
การปลูกกาแฟ |
24 |
7 |
การใส่ปุ๋ย |
25 |
8 |
การคุมโคน |
25 |
9 |
การตัดแต่งกิ่งแบบเปิดข้าง |
26 |
10 |
การตัดจนเหลือแต่ตอ |
26 |
บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
หลักการตามนโยบาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นดำเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 ศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่องการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นอื่น ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2561 – 2564) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2562 – 2565) รวมทั้งนโยบายและแผนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคาดหวังว่าผู้เรียนทุกช่วงวัยจะได้รับการพัฒนาในทุกมิติ เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
จุดเน้นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เกี่ยวกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นไปที่การจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย เน้นส่งเสริมและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ (English for All) ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ อาชีพที่เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต และหลักสูตรการดูแลผู้สูงวัย หลักสูตร BUDDY โดยเน้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน โรงเรียน และผู้เรียน หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์สินค้าออนไลน์ระดับตำบล ส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงการศึกษาเพื่อทักษะอาชีพและการมีงานทำ ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเขตพื้นที่พิเศษ (พื้นที่สูง พื้นที่ตามแนวตะเข็บ ชายแดน และพื้นที่เกาะแก่ง ชายฝั่งทะเล ทั้งกลุ่มชนต่างเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มชนชายขอบ และแรงงานต่างด้าว) รวมทั้งการพัฒนาครูให้มีทักษะ ความรู้ และความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ และภาษาอังกฤษ รวมทั้งการจัดการเรียนการสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและมีเหตุผลเป็นขั้นตอน พัฒนาสมรรถนะและความรู้ความสามารถของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานรองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดให้มีศูนย์พัฒนาสมรรถนะบุคลากรระดับจังหวัดทั่วประเทศ (นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ, 2564 )
ส่วนนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2564 ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ข้อ 1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย มีนโยบายในการพัฒนาแหล่งการเรียนรูที่มีบรรยากาศและสภาพแวดลอมที่เอื้อตอการอ่านและพัฒนาศักยภาพ การเรียนรูให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตำบล หองสมุด ประชาชนทุกแหงให้มีการบริการที่ทันสมัย สงเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสงเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่าย สงเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการหองสมุดเคลื่อนที่ หองสมุดชาวตลาด พรอมหนังสือและอุปกรณ์เพื่อจัดกิจกรรม สงเสริมการอ่านและการเรียนรูที่หลากหลายให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ รวมทั้ง เสริมสร้างความพรอมในด้านบุคลากร สื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่าน อย่างหลากหลายรูปแบบ (สำนักงาน กศน. สำนักปลัดกระทรงศึกษาธิการ,2564)
ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร จึงดำเนินการขยายแหล่งเรียนรู้ รวบรวมข้อมูล ความรู้ ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ให้ประชาชนได้นำไปปฏิบัติ การปลูกกาแฟ ตามหลักเกษตรธรรมชาติ และแนวทางการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่นหรือคนในชุมชน เพื่อพัฒนาให้แหล่งการเรียนรู้สามารถตอบสนองกับความต้องการของคนในชุมชนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้การประยุกต์ใช้สื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ กว้างขวางและเป็นรูปธรรม ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจของสำนักงาน กศน. ตามเป้าหมายของหน่วยงาน และเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับบุคลากรของหน่วยงานให้มีองค์ความรู้ที่ชัดเจน
กาแฟถือเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และเป็นสินค้าที่มีความสำคัญต่อการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ และมีมูลค่าการค้าขายสูงเป็นอันดับสองของโลก ในประเทศไทยกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมีพื้นที่ปลูกกาแฟทั้งประเทศประมาณ 271,992 ไร่ ผลผลิตรวม 26,089 ตัน ประมาณร้อยละ 80 เป็นกาแฟพันธุ์โรบัสต้า มีพื้นที่ปลูกมากในภาคใต้ อาทิ จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช อีกประมาณร้อยละ 20 เป็นพันธุ์อาราบิก้า ปลูกมากในภาคเหนือ อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกกาแฟโรบัสต้า เนื่องจากสามารถต้านทานโรคราสนิม ทนต่อสภาพอากาศ และผลผลิตสูง มีการยอมรับจากนานาชาติอย่างกว้างขวางในตลาดส่งออกของไทย (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2558) จังหวัดชุมพรเป็นแหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีพื้นที่ปลูก 129,829 ไร่ คิดเป็น ประมาณร้อยละ 69 ของพื้นที่ปลูกในภาคใต้ โดยมีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอท่าแซะ อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอปะทิว อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอละแม ซึ่งอำเภอท่าแซะเป็นอำเภอที่มีการปลูกกาแฟโรบัสต้ามากที่สุด (สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร, 2558) แต่ในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ปลูกมีแนวโน้มลดลง ขณะที่โรงงานแปรรูปกาแฟในประเทศไทยมีความต้องการเมล็ดกาแฟในปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในปี พ.ศ. 2555-2558 จาก 67,620 70,000 75,000 และ 80,000 ตัน/ปี เพิ่มขึ้นตามลำดับ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2558) ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร มีประชากรโดยส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพทำสวนกาแฟโรบัสต้า โดยการปลูกกาแฟโรบัสต้ามากที่สุด 62,939 ไร่ คิดเป็นประมาณร้อยละ 80 ของพื้นที่ปลูกในอำเภอท่าแซะ(สำนักงานเกษตรอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร, 2558) เนื่องจากมีสภาพอากาศ สภาพดิน และลักษณะพื้นที่เหมาะสม แก่การปลูกกาแฟโรบัสต้า แต่ในการปลูกกาแฟโรบัสต้าของเกษตรกรมักประสบปัญหาต้นทุนการผลิตจากการใช้ปุ๋ยการจ้างแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตกาแฟโรบัสต้า และประสบปัญหาโรคแมลงระบาดมีการใช้สารเคมี ทำให้ คุณภาพและปริมาณผลผลิตกาแฟโรบัสต้าลดลง
ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพรได้ดำเนินการขยายผลการปลูกกาแฟเกษตรธรรมชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ชายแดน หลังจากได้มีการทดลองได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถนำไปปรับใช้หรือเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร โดยได้ดำเนินการจัดทำแหล่งเรียนรู้ การปลูกกาแฟ ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรธรรมชาติตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร เพื่อเป็นศูนย์สาธิตและถ่ายทอดให้แก่ประชาชนตามแนวชายแดนที่ทำอาชีพทางด้านการเกษตร และประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้และเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมฐานการเรียนรู้กาแฟของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร
ขอบเขตการวิจัย
1. ขอบเขตด้านเนื้อหา
ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน ประกอบด้วย การจัดกิจกรรมการปฏิบัติจริง การบรรยาย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการสาธิตการแปรรูป
ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลการวิจัย การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน ประกอบด้วย ความรู้ ความเข้าใจ และความพึงพอใจของผู้รับบริการ
2. ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้รับบริการศึกษาตามอัธยาศัยของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร จำนวน 300 คน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้รับบริการศึกษาตามอัธยาศัยของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร จำนวน 45 คน
3. ขอบเขตด้านระยะเวลา
เดือน เมษายน – เดือนมิถุนายน 2564
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การจัดการเรียนรู้ หมายถึง กิจกรรมที่บุคลากรของ ศฝช.ชุมพร ได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ในการถ่านทอดให้กับบุคลอื่น อย่างสร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ โดยอาศัยวิธีการบรรยาย การฝึกปฏิบัติ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กระบวนการกลุ่ม และการจัดทำฐานเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของชุมชนและสถานศึกษา
2. กิจกรรมเป็นฐาน หมายถึง การจัดกิจกรรมในฐานการเรียนรู้ของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร ในที่นี้หมายถึงฐาน กาแฟ ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักๆ ได้แก่ การจัดกิจกรรมการปฏิบัติจริง การบรรยาย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสาธิตการแปรรูป
3. ความรู้ ความเข้าใจ หมายถึง ความรู้ความเข้าใจของผู้รับบริการ ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เรียนได้รับความรู้และประสบการณ์จากการจัดการเรียนรู้หรือการถ่ายทอดจากวิทยากร โดยวัดจากผลการทดสอบก่อน-หลังเข้ารับความรู้
4. ความพึงพอใจของผู้รับบริการ หมายถึง ความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ ต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐานของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร ใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสื่อการเรียนรู้ ด้านวิทยากร ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ และด้านความรู้ที่ได้รับ
4.1 ด้านสื่อการเรียนรู้ หมายถึง สื่ออุปกรณ์ แผ่นพับ ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในฐานการเรียนรู้โดยเนื้อหาของสื่อสอดคล้องกับฐานการเรียนรู้ สื่อมีความทันสมัย เหมาะสม เพียงพอ
4.2 ด้านวิทยากร หมายถึง ผู้ทำหน้าที่จัดกระบวนการเรียนรู้หรือถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ โดยวิทยากรต้องมีความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา การนำเสนอเนื้อหามีความน่าสนใจ เหมาะสม รวมถึงการใช้เวลาในการอธิบายและการเปลี่ยนฐานเหมาะสม
4.3 ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ หมายถึง การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการได้แลกเปลี่ยนหรือซักถาม
4.4 ด้านความรู้ที่ได้รับ หมายถึง สิ่งที่ผู้รับบริการได้รับจากฐานการเรียนรู้ ได้แก่ ความเข้าใจเนื้อหาที่วิทยากรอธิบาย มีความรู้เพิ่มมากขึ้น นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้ และสามารถนำไปต่อยอดความรู้และ